ภูต
ดิฉันคิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินกันนะค๊ะคำว่า ภูต ผีสางทั้งหลายแต่จะมีก็คนที่รู้บ้างว่า
ภูตมีกี่ประเภทแต่ละประดเภทใช้ทำอะไรวันนี้เราจะมารู้จักกับภูตซัก2/ชนิดแล้วกัน
1อากาเชี่ยน(Agarchaen)เราคิดว่าภูตประเภทนี้ทุกคนคงคุ้นเคยกันแต่ไม่
รู้ว่าชื่อจริงๆของมันคืออะไร"อากาเชี่ยน"นั้นจริงๆแล้วก็คล้ายๆภูตรับใช้นั้นแหละ
เป็นภูตที่มีหลากหลายรูปร่างเพราะรูปร่างของอากาเชี่ยนจะเปลี่ยนไปตามเจ้านาย
แต่ละคนบางตนมีรูปกายเป็นคนบ้างก็สัตว์แบ่งเป็น.2ประเภท
รู้ว่าชื่อจริงๆของมันคืออะไร"อากาเชี่ยน"นั้นจริงๆแล้วก็คล้ายๆภูตรับใช้นั้นแหละ
เป็นภูตที่มีหลากหลายรูปร่างเพราะรูปร่างของอากาเชี่ยนจะเปลี่ยนไปตามเจ้านาย
แต่ละคนบางตนมีรูปกายเป็นคนบ้างก็สัตว์แบ่งเป็น.2ประเภท
-อากาเซีย(Agasae)เป็นอากาเชี่ยนประเภทไม่มีกำลังสู้รบแต่จะมีพลังเวทมหาศาล
หรือไม่ก็ฉลาดเป็นกรดส่วนใหญ่ใช้สอดเเนม(กรณีที่มีรูปร่างเป็นสัตว์)หรือทำความ
สะอาดที่พัก
หรือไม่ก็ฉลาดเป็นกรดส่วนใหญ่ใช้สอดเเนม(กรณีที่มีรูปร่างเป็นสัตว์)หรือทำความ
สะอาดที่พัก
-อาซาเกีย(Asagae)เป็นอากาเชี่ยนประเภทสู้รบคล้ายๆ"เซอร์เวน"จาก เฟท/ซีโร่นั่นแหละ
จะเป็นประเภทโง่เง่าเน้นทำลายล้างทำตามคำสั่งนายทุกอย่างแต่จะหายากเพราะต้องใช้
พลังเวทมหาคศาลสุดๆเนื่องจากพลังของมันจะมีมากเท่ากับพลังเวทปัจจุบันของเจ้านาย
ที่หายากเพราะตอนอัญเชิญต้องใช้พลังเวทเเล้วยังต้องควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยพลังเวท
อีกหมายความว่าถ้าคุนมีพลังเวท10คุณใช้อันเชิญ4และใช้ให้ต้องคงรูปต่อไปอีก3ดังนั้นคุณ
จะเหลือพลังเวทแค่3ในการใช้ให้เคลื่อนไหวเท่ากับว่าระหว่างการใช้อาซาเกียคุนจะไม่สามารถ
ใช้เวทอื่นได้นั้นเอง
จะเป็นประเภทโง่เง่าเน้นทำลายล้างทำตามคำสั่งนายทุกอย่างแต่จะหายากเพราะต้องใช้
พลังเวทมหาคศาลสุดๆเนื่องจากพลังของมันจะมีมากเท่ากับพลังเวทปัจจุบันของเจ้านาย
ที่หายากเพราะตอนอัญเชิญต้องใช้พลังเวทเเล้วยังต้องควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยพลังเวท
อีกหมายความว่าถ้าคุนมีพลังเวท10คุณใช้อันเชิญ4และใช้ให้ต้องคงรูปต่อไปอีก3ดังนั้นคุณ
จะเหลือพลังเวทแค่3ในการใช้ให้เคลื่อนไหวเท่ากับว่าระหว่างการใช้อาซาเกียคุนจะไม่สามารถ
ใช้เวทอื่นได้นั้นเอง
2ร่างจำลองของมนุษย์(golem)โกเลมจะคล้ายกับอาซาเกียในหลายด้านต่างไปตรงที่ไม่ต้องใช้
พลังเวทมากมีร่างเป็นดินหรือหินส่วนใหญ่ใช้เฝ้าที่ศักศิษต่างๆเนื่องจากสามารถใช้วงเวททำให้
อยู่ได้ตลอดการเว้นแต่จะถูกทำลายมีความคิดเป็นของตนเองแต่ก็ยังโง่อยู่ดีเคลื่อนไหวช้ากำลัง
มหาศาล
3แฟรี่ (Fairy) มีรูปร่างคล้ายคนตัวเล็กๆ หูแหลม และมีปีกเหมือนผีเสื้อ คำว่า Faery
(หรอบางทีเค้าก็ใช้Fairy)มาจาก Fer-Sidhe(อ่านว่า ฟาร์ ชีห์) อันแปลว่า ชายแห่งเนินเขา
หรือเป็นคำเรียกที่หมายถึง เทพ ของชาวเคลติค ซึ่งเทพเจ้าของชาวเคลติคเรียกว่า Aes Sidhe
หมายถึง คนแห่งเนินเขา(ส่วนเทพีเรียกว่า Bean Sidhe หมายถึงหญิงแห่งเนินเขา เพราะเทพของ
เคลติคนั้น เป็นผู้ปกครองเนินเขาต่างๆ ที่เรียกว่า Sidhe) ซึ่งหลังจากศาสนาคริสต์เข้ามามีบทบาท เหล่าเทพเจ้าก็ถูกลืม และคำว่า ฟาร์ ชีห์ นี้ก็ได้กลายมาเป็นคำว่า Fairyเวทมนตร์ของแฟรี่นั้น ได้แก่
มายิกด้านธรรมชาติ(มายิกเป็นพลังทางธรรมชาติ) และสามารถสาปหรืออวยพรได้ผลดีอีกด้วย แฟรี่มักจะอวยพรให้กับเด็กเกิดใหม่ หรือผู้ที่ให้เกียรติแฟรี่ก็จะได้รับพรเช่นเดียวกัน แต่ถ้าดูถูกล่ะก็โดนสาปให้ได้โชคร้ายเหมือนกัน หัวหน้าของพวกแฟรี่คือ ราชาหรือราชินีแฟรี่ ซึ่งมีรูปร่างงดงาม และมีอำนาจมาก ราชินีของพวกแฟรี่จะสวมใส่ชุดสีขาว พวกเขาจะรักในความสนุกสนานรื่นเริง และดูเป็นมิตรอย่างมาก(ถึงแม้จะไม่ค่อยยุ่งกับพวกมนุษย์) แฟรี่มีแพร่หลายในหลายๆตำนาน เช่นเคลติค(ตัวเริ่ม) กรีกก็มีบ้าง แต่ไม่ได้เป็นแบบดั่งเดิม กล่าวคือ มักนำไปเกี่ยวกับภูตอื่นๆเช่น ฟอน หรือเทพแพน ครึ่งคน ครึ่งแพะ ซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นเกี่ยวข้องกับปีศาจ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของซาตานด้วย(แพะกับหัว โดยจริงๆคือ มังกร) และที่ควรรู้คือ แฟรี่มีเวทมนตร์กำบังตนจากสายตาของมนุษย์ แต่ไม่ได้เป็นการล่องหนด้วยการเบียงเบนแสงนะครับ(พรีเดเตอร์ไง) ที่จริงเป็นเพราะมนุษย์ส่วนมากไม่มีความเชื่อในเรื่องแฟร์รี่ ก็จะไม่ได้เห็นกัน แม้ะเชื่อก็ใช่ว่าจะได้เห็นกันง่ายๆนะวิธีการมองเห็นแฟรี่ก็คือ นำหินที่มีทะลุเป็นรูตรงกลางสามารถมองรอดผ่านได้
จากกลางลำธาร(ต้องเป็นหินที่เป็นโดนน้ำกัดเซาะเป็นรูโดยธรรมชาติเท่านั้นนะครับ จึงสามารถใช้ได้ ไม่ใช่ว่าเอาสว่านเจาะแล้วเอาไปโยนกลางน้ำ)*-^O^-*ภูตน้อยเหล่านี้ปรากฏกายโดยมีแสงเรืองเป็นประกายออกมาจากตัวแฟรี่นั้นไม่มีวัยชรา โดยแท้จริงแล้ว แฟรี่มีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า หรือแฟรี่จะเป็นเทพเผ่าพันธ์หนึ่ง ที่กำเนิดแต่ธรรมชาติ ความจริงพวกแฟรี่ไม่น่าจะถูกเรียกว่าภูตน้อยสักเท่าไหร่ เพราะแฟรี่นั้นเป็นทั้งพรายและภูตในตัวเดียวกัน สามารถที่จะขยายร่างกายให้มีขนาดเท่าๆกับมนุษย์ และย่อตัวเล็กจิ๋วได้เวลาแฟรี่อยู่ในร่างของภูต จะมีปีก และมีแสงสว่าง แต่พอขยายตัวใหญ่ จะมีลักษณะของพราย(หรือเทพ) และดูจะไม่ต่างจากเอลฟ์หรือมนุษย์เลย อีกทั้งยังมีแสงสว่างแห่งเทพซึ่งสว่างประดุจแสงจันทร์อยู่ในตัว
พลังเวทมากมีร่างเป็นดินหรือหินส่วนใหญ่ใช้เฝ้าที่ศักศิษต่างๆเนื่องจากสามารถใช้วงเวททำให้
อยู่ได้ตลอดการเว้นแต่จะถูกทำลายมีความคิดเป็นของตนเองแต่ก็ยังโง่อยู่ดีเคลื่อนไหวช้ากำลัง
มหาศาล
3แฟรี่ (Fairy) มีรูปร่างคล้ายคนตัวเล็กๆ หูแหลม และมีปีกเหมือนผีเสื้อ คำว่า Faery
(หรอบางทีเค้าก็ใช้Fairy)มาจาก Fer-Sidhe(อ่านว่า ฟาร์ ชีห์) อันแปลว่า ชายแห่งเนินเขา
หรือเป็นคำเรียกที่หมายถึง เทพ ของชาวเคลติค ซึ่งเทพเจ้าของชาวเคลติคเรียกว่า Aes Sidhe
หมายถึง คนแห่งเนินเขา(ส่วนเทพีเรียกว่า Bean Sidhe หมายถึงหญิงแห่งเนินเขา เพราะเทพของ
เคลติคนั้น เป็นผู้ปกครองเนินเขาต่างๆ ที่เรียกว่า Sidhe) ซึ่งหลังจากศาสนาคริสต์เข้ามามีบทบาท เหล่าเทพเจ้าก็ถูกลืม และคำว่า ฟาร์ ชีห์ นี้ก็ได้กลายมาเป็นคำว่า Fairyเวทมนตร์ของแฟรี่นั้น ได้แก่
มายิกด้านธรรมชาติ(มายิกเป็นพลังทางธรรมชาติ) และสามารถสาปหรืออวยพรได้ผลดีอีกด้วย แฟรี่มักจะอวยพรให้กับเด็กเกิดใหม่ หรือผู้ที่ให้เกียรติแฟรี่ก็จะได้รับพรเช่นเดียวกัน แต่ถ้าดูถูกล่ะก็โดนสาปให้ได้โชคร้ายเหมือนกัน หัวหน้าของพวกแฟรี่คือ ราชาหรือราชินีแฟรี่ ซึ่งมีรูปร่างงดงาม และมีอำนาจมาก ราชินีของพวกแฟรี่จะสวมใส่ชุดสีขาว พวกเขาจะรักในความสนุกสนานรื่นเริง และดูเป็นมิตรอย่างมาก(ถึงแม้จะไม่ค่อยยุ่งกับพวกมนุษย์) แฟรี่มีแพร่หลายในหลายๆตำนาน เช่นเคลติค(ตัวเริ่ม) กรีกก็มีบ้าง แต่ไม่ได้เป็นแบบดั่งเดิม กล่าวคือ มักนำไปเกี่ยวกับภูตอื่นๆเช่น ฟอน หรือเทพแพน ครึ่งคน ครึ่งแพะ ซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นเกี่ยวข้องกับปีศาจ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของซาตานด้วย(แพะกับหัว โดยจริงๆคือ มังกร) และที่ควรรู้คือ แฟรี่มีเวทมนตร์กำบังตนจากสายตาของมนุษย์ แต่ไม่ได้เป็นการล่องหนด้วยการเบียงเบนแสงนะครับ(พรีเดเตอร์ไง) ที่จริงเป็นเพราะมนุษย์ส่วนมากไม่มีความเชื่อในเรื่องแฟร์รี่ ก็จะไม่ได้เห็นกัน แม้ะเชื่อก็ใช่ว่าจะได้เห็นกันง่ายๆนะวิธีการมองเห็นแฟรี่ก็คือ นำหินที่มีทะลุเป็นรูตรงกลางสามารถมองรอดผ่านได้
จากกลางลำธาร(ต้องเป็นหินที่เป็นโดนน้ำกัดเซาะเป็นรูโดยธรรมชาติเท่านั้นนะครับ จึงสามารถใช้ได้ ไม่ใช่ว่าเอาสว่านเจาะแล้วเอาไปโยนกลางน้ำ)*-^O^-*ภูตน้อยเหล่านี้ปรากฏกายโดยมีแสงเรืองเป็นประกายออกมาจากตัวแฟรี่นั้นไม่มีวัยชรา โดยแท้จริงแล้ว แฟรี่มีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า หรือแฟรี่จะเป็นเทพเผ่าพันธ์หนึ่ง ที่กำเนิดแต่ธรรมชาติ ความจริงพวกแฟรี่ไม่น่าจะถูกเรียกว่าภูตน้อยสักเท่าไหร่ เพราะแฟรี่นั้นเป็นทั้งพรายและภูตในตัวเดียวกัน สามารถที่จะขยายร่างกายให้มีขนาดเท่าๆกับมนุษย์ และย่อตัวเล็กจิ๋วได้เวลาแฟรี่อยู่ในร่างของภูต จะมีปีก และมีแสงสว่าง แต่พอขยายตัวใหญ่ จะมีลักษณะของพราย(หรือเทพ) และดูจะไม่ต่างจากเอลฟ์หรือมนุษย์เลย อีกทั้งยังมีแสงสว่างแห่งเทพซึ่งสว่างประดุจแสงจันทร์อยู่ในตัว




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น